ตอน 2: บทเรียนของคนไม่เคยทำอะไร
หลังจากที่ฉันสอบบรรจุข้าราชการครูได้
ฉันก็ได้มาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนนาดินแดงวิทยา
โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขยายโอกาสเล็กๆ
นักเรียนในโรงเรียนมีเพียงสามร้อยคนเท่านั้น
ส่วนมากแล้วจะเป็นเด็กในหมู่บ้านที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้
บรรยากาศที่นี้เต็มไปด้วยท้องทุ่งนาสีเขียว
มีวัวและควายเดินเล่นอยู่ตามท้องนา
ลมพัดผ่านเย็นสบาย สงบ
และทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างจากกรุงเทพมหานครที่ฉันอาศัยอยู่มาก ที่นั้นมีแต่รถวิ่งบนท้องถนนมากมาย
ผู้คนและบ้านเรือนก็เยอะไปหมด
“กับข้าวครับ กับข้าว…” เสียงคนขายกับข้าวร้องขึ้นเสียงดังพร้อมจอดรถสามล้อตรงหน้าบ้านพักของฉัน
“กับข้าวครับ กับข้าว…” เสียงคนขายกับข้าวร้องขึ้นเสียงดังพร้อมจอดรถสามล้อตรงหน้าบ้านพักของฉัน
“มีข้าวกล่องไหมค่ะลุง”
ฉันรีบเดินเข้าไปถามลุงขายกับข้าว
“ไม่มีหรอกหนู ที่นี้เขาซื้อแต่ของสดกัน”
ลุงพูดพร้อมกับหยิบหมูและผักขึ้นมาให้ดู
“อ่อ…ถ้างั้นไม่เป็นไรค่ะ”
ฉันทำหน้าเสียใจนิดๆ เพราะถ้าไม่มีข้าวกล่องแล้วไม่รู้ฉันจะทานอะไร ในตู้เย็นของฉันก็มีแค่นมกับขนมปังเท่านั้น
ฉันทำกับข้าวไม่เป็นเลยสักอย่างแม้แต่ไข่เจียว มีเพียงแค่มาม่าเท่านั้นที่ฉันทำเป็น
อาจเป็นเพราะที่บ้านของฉันมีแม่พรทำให้ทุกอย่าง ทั้งกับข้าว ซักผ้ารีดผ้า แม่พรทำให้ฉันตั้งแต่เล็กจนโต
“หนูถ้าจะเอาวันหลังลุงเอามาให้ได้นะ แต่ทุกวันหนูต้องสั่งลุงมาว่าจะกินอะไร
เดียวลุงเอามาให้” ลุงพูดแล้วส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณนะคะลุง”
ฉันรีบขอบคุณลุงและยิ้มให้ลุงอย่างดีใจ
ฉันเดินทางกลับมายังบ้านพักของตัวเอง
แล้วเดินไปหยิบนมและขนมปังในตู้เย็นขึ้นมารับประทาน
ในสมองของฉันก็คิดเรื่องเก่าๆขึ้นมาทันที ฉันคิดเรื่องเก่าๆที่แม่พรยืนทำกับข้าวอยู่ในครัว
นั่งซักผ้า และยืนล้างจานให้กับพวกเราที่กินเสร็จ
ชีวิตแม่พรผ่านอะไรหลายๆอย่างมามากมาย
แต่สำหรับฉันสุขสบายบนกองเงินกองทองของพ่อกับแม่ที่หาเอามาไว้ให้ ถ้าตอนนั้นฉันให้แม่พรสอนทำกับข้าว ซักผ้า
รวมทั้งงานบ้านต่างๆ ฉันคงไม่ลำบากเหมือนทุกวันนี้ ฉันจึงคิดต่อไปอีกว่า
การที่คนเราชอบจ้างให้คนอื่นมาทำนู้นทำนี้ให้เรา
ทั้งที่เราควรจะทำและเรียนรู้มันเองบ้าง กลับกลายเป็นว่าเมื่อเราไม่มีพวกเขาเหล่านี้แล้ว
เรากลายเป็นคนทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง
น้ำตาของฉันค่อยๆไหลออกมา
“ฉันคิดถึงที่บ้านจังเลย” ฉันพร่ำเพ้อกับตัวเองในห้องนอน
หลังจากที่ฉันดื่มนมและขนมปังเสร็จแล้ว
ฉันก็มาตรวจการบ้านให้กับเด็ก แม้ในสมองอาจจะมีเรื่องของที่บ้านเข้ามา บ้าง
แต่ฉันก็ปลอบใจตนเอง และให้ข้อผิดพลาดที่ผ่านมา เป็นบทเรียนในการเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตที่ต้องทำทุกอย่างเอง
ฉันหวังว่าสักวันฉันต้องทำมันได้ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรไม่เป็นเลยก็ตาม
สาย รัดกร

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น